เจ้าหน้าที่การทูตหมายเลหขหนึ่งของสหรัฐเลื่อนเยือนกรุงปักกิ่ง “อย่างไม่มีกำหนด” จากเหตุ “บอลลูนสอดแนม” ขณะที่จีนกล่าวว่า “เป็นเรือเหาะตรวจสอบสภาพอากาศ”

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ว่านายแอนโทนี บลิงเคน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเมื่อวันศุกร์ ว่าได้แจ้งโดยตรงไปยังนายหวัง อี้ ประธานคณะกรรมธิการวิเทศสัมพันธ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และนายฉิน กัง รมว.กระทรวงการต่างประเทศจีน ว่าเหตุการณ์ “วัตถุต้องสงสัย” เป็น “บอลลูนสอดแนม” ของรัฐบาลปักกิ่ง ลอยตัวอยู่ในเขตน่านฟ้าของสหรัฐ เป็นเรื่องที่รัฐบาลวอชิงตันไม่อาจรับได้อย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้ กำหนดการเยือนจีน “ต้องเลื่อนออกไปก่อน”

ทั้งนี้ บลิงเคนมีกำหนดเยือนกรุงปักกิ่งอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 5-6 ก.พ. ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะเป็นการเดินทางมายังกรุงปักกิ่งอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในรอบนานกว่า 4 ปี ของเจ้าหน้าที่การทูตหมายเลขหนึ่งจากกรุงวอชิงตัน นับตั้งแต่การเยือนของนายไมค์ ปอมเปโอ เมื่อเดือน ต.ค. 2561

ขณะที่พล.จ. แพทริก ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ แถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อวันศุกร์ ว่าผลการติดตามบอลลูนโดยเครื่องบินรบของกองทัพสหรัฐ พบว่า วัตถุลอยตัวอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 18,300 เมตร จากพื้นดินในภูมิภาคทางตอนกลางของสหรัฐ และมีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออก บอลลูนลูกดังกล่าวลอยตัวอยู่ในเขตน่านฟ้าของสหรัฐมานานหลายวันแล้ว และคาดว่าจะยังคงอยู่ “อีกหลายวัน”

อย่างไรก็ตาม การที่บอลลูนลอยตัว “อยู่เหนือเขตการจราจรสำหรับเครื่องบินพาณิชย์ แต่ต่ำกว่าระดับขอบเขตอวกาศ” จึงไม่เป็นอันตรายต่อฝ่ายใด และเชื่อว่า ศักยภาพของการรวบรวม “ข้อมูลลับ” จะอยู่ในขีดจำกัด แต่การเคลื่อนที่ของบอลลูน “เป็นไปอย่างจำเพาะเจาะจง” โดยหนึ่งในบริเวณที่บอลลูนเดินทางผ่าน คือน่านฟ้าของรัฐมอนแทนา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของฐานทัพอากาศ มาล์มสตรอม หนึ่งในฐานทัพนิวเคลียร์แห่งสำคัญของสหรัฐ จากการเป็นสถานที่เก็บหัวรบนิวเคลียร์ประมาณ 150 ลูก

ด้านแหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐกล่าวว่า กองทัพเตรียมการยิงบอลลูนลูกนี้ ทว่าเปลี่ยนใจในท้ายที่สุด เนื่องจากหวั่นเกรงเรื่องความปลอดภัยของประชาชน โดยชิ้นส่วนอาจแตกกระจายออกไปเป็นวงกว้าง หลังถูกยิง

สำหรับท่าทีจากรัฐบาลปักกิ่ง นางเหมา หนิง โฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวเพียงว่า “เสียใจเป็นอย่างมาก” ต่อการที่ “เรือเหาะ” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และอุตุนิยมวิทยาสำหรับพลเรือน ลอยเข้าไปอยู่ในเขตน่านฟ้าของสหรัฐ